แปลกแต่จริง! ไฟไหม้บ้านเพราะวางกระปุกช็อกโกแลตไว้ข้างหน้าต่าง
นี่อาจจะเป็นเรื่องแปลกสำหรับคุณ แต่มันไม่แปลกเลยสำหรับต่างประเทศเพราะเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นแล้วหลายครั้ง คุณอาจจะสงสัยว่ากระปุกช็อคโกแลตเนี่ยนะ จะทำให้ไฟใหม้บ้านคุณได้ ลองไปดูกันว่าเรื่องมันเป็นยังไง
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธุ์ ที่ผ่านมา โดย นาย Declan Murphy เล่าว่า เขา และภรรยา Lindsay พร้อมกับลูกๆอีก 2 คน เดินทางไปฉลองวันครบรอบแต่งงานข้างนอกบ้านในขณะเกิดเพลิงไหม้
ซากบ้านของครอบครัวMurphy ที่ถูกเพลิงไหม้ ณ รัฐ Twickenham, London
จากการตรวจสอบเชื่อว่าสาเหตุของเพลิงไหม้เกิดจากแสงแดดสะท้อนไปยังกระปุกช็อคโกแลตเฮลเซนัทยี่ห้อนูเทลล่าซึ่งทำมาจากแก้ว กระปุกนี้ถูกตั้งไว้ข้างๆกับหน้าต่างเพื่อรวบรวมหนังยาง ลำแสงส่องผ่านกระปุกแก้วจะมีความเข้มมากขึ้นทำให้เกิดเพลิงใหม้ เป็นเหตุให้ครอบครัวนี้ต้องสูญเสียสุนัขพันธุ์แจ็ค รัซเซล ชิลี ที่ติดอยู่ในบ้านขณะเกิดเพลิงไหม้ ห้องนอนชั้นล่างเสียหายทั้งหมดรวมไปถึงหลังคาบ้านอีกด้วย
กระปุกนูเทลล่าที่คาดว่าเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ถูกตั้งอยู่ข้างหน้าต่างภายในห้องของบุตรสาว
โดยผู้เป็นพ่อกล่าวว่าพวกเขาต้องหัวใจแทบสลายเมื่อพบว่าต้องเสียสุนัขไป และบ้านของพวกเขายังต้องซ่อมแซม คาดว่าใช้เวลาเป็นปีจึงจะกลับมาอาศัยได้เหมือนเดิม ทั้งนี้ช่างไฟฟ้าวัย 41 ปีได้กล่าวไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ว่าควรหลีกเลี่ยงการวางภาชนะที่เป็นแก้วไว้ข้างๆหน้าต่างหรือที่ที่จะได้รับแสงโดยตรงเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจเช่นนี้อีก
Charlie Pugsley หนึ่งในหน่วยดับเพลิงชาวลอนดอนกล่่าวว่า มันอาจไม่น่าเชื่อที่กระปุกนูเทลล่าที่มีหนังยางอยู่ไม่มากจะเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ แต่นี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ดังนั้นมันน่าจะดีกว่าถ้าคุณจะสละเวลาซัก 5 นาทีเพื่อตรวจสอบสิ่งของแถวๆหน้าต่างว่ามีสิ่งไหนเป็นแก้ว หรือเป็นผลึกใสที่สามารถทำให้แสงอาทิตย์สะท้อนหรือส่องผ่านกลายแล้วเกิดไฟลุก
เมื่อสัปดาห์ก่อน Michelle Mone ผู้ค้าชุดชั้นในรายใหญ่ก็ได้กล่าวไว้ในทวิตเตอร์ของเธอ เกี่ยวกับเหตุการณ์ทำนองเดียวกันว่า เธอวางถุงถั่วไว้บนโต๊ะที่ทำจากกระจก ขณะหนึ่งที่แสงแดดสะท้อนกับกระจกองทำให้ถุงถั่วเกิดไฟลุก และยังโชคดีที่เธอดับมันไว้ได้ทัน ทั้งนี้หน่วยดับเพลิงยังเพิ่มเติมว่ามีเหตุการณ์ไฟไหม้ที่มีสาเหตุเดียวกันนี้ถึง 125 ครั้ง ในเวลา 5 ปี ไม่ว่าฤดูร้อนหรือฤดูหนาว แสงแดดก็สามารถทำให้เกิดไฟไหม้ได้
แหล่งที่มา: metro