บังเอิญ? มาดู 10 เรื่องของการกลับมาอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้
ของบางอย่างที่หายไปแล้วคุณคงไม่คิดได้ว่าจะได้กลับคืนมา หรืออะไรก็ตามที่คุณคิดว่ามันคงจะเกิดขึ้นครั้งเดียวในชีวิตแล้วจะไม่กลับมาอีก แต่หลายเรื่อง ๆ ก็ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นได้ มันก็กลับมาจนได้ หาไม่เช่นนั้นแล้วคำว่า "ปาฏิหาริย์" คงไม่มีบัญญัติไว้ในพจนานุกรม
1.พ่อหม้ายที่ทำแบ็งค์ดอลล่าห์ที่เซ็นโดยภรรยาสุดที่รักหายไป
ปีเตอร์ บิเลลโล และภรรยา เกรซ ได้ทำสัญลักษณ์แห่งความรักของทั้งสองคนไว้ โดยการเซ็นชื่อที่แบ็งค์คนละใบ แต่วันหนึ่งเขาได้บังเอิญ ใช้แบ๊งค์ที่เซ็นโดยภรรยาไป แบบไม่ได้ตั้งใจ เขาคิดว่าคงจะไม่มีวันได้เห็นมันอีก แต่แล้วหลังจากภรรยาของเขาได้เสียชีวิตลง วันนึงเขาได้พาหลานสาวไปทานอาหารข้างนอกและได้เอาแบ็งค์ 10 ดอลล่าห์ให้เธอไปจ่ายเงิน และเมื่อหลานสาวนำเงินทอนกลับมาให้ เขาก็ได้พบกับแบ็งค์ดอลล่าห์ที่เซ็นโดยภรรยา
ปีเตอร์เผยต่อนักข่าวว่า"สิ่งแรกที่ผมทำคือ บอกหลานสาวว่าเราจะไปเยี่ยมคุณย่าที่หลุมศพกันนะ แล้วผมก็ได้เอาแบ็งค์ไปโชว์ต่อหน้าหลุมศพภรรยา เพื่อบอกเธอว่าผมได้พบแบ็งค์ของเธอแล้ว"
นี่จะเป็นการสื่อสารจากอีกโลกหนึ่งหรือไม่เราไม่อาจรู้ได้ แต่นี่ก็เป็นความบังเอิญที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง
2.เด็กหญิงที่ได้รับจดหมายจากตัวเอง ที่ใส่ไว้ในขวด
วันที่ 28 มิถุนายน 2009 เมแกน บิโลดู เด็กหญิงวัย 8 ขวบ ได้ไปท่องเที่ยวบนเรือสำราญกับครอบครัว ซึ่งพ่อของเธอได้ชวนให้เธอเขียนจดหมายลงในขวดแล้วโยนทิ้งไว้ในมหาสมุทรแอตแลนติค หลังจากนั้นเธอก็ได้กลับบ้านเธอใกล้ ๆ กับเกาะ Martha's vineyard ในรัฐแมสสาชูเซสส์
วันที่ 18 กรกฏาคมปีเดียวกันนั้นเอง เท็ดดี้ เฮอร์ริค และครอบครัวได้ไปเที่ยวเรือในช่องแคบ Vineyard sound(ช่องแคบใกล้ ๆ เกาะ Martha's vineyard) เธอและครอบครัวได้เก็บขวด พร้อมกับข้อความระบุชื่อและที่อยู่ พร้อมกับข้อความนี้ว่า"ฉันหวังอยู่เสมอว่าจะมีคนได้พบข้อความในขวดของฉันนี้ แล้วถ้ามีคนพบ หวังว่าเขาคงจะใจดีพอที่จะ ส่งข้อความกลับมาหาฉันด้วย ได้โปรดเถอะ นะนะนะ"
ซึ่งเท็ดดี้ทำตามที่เมแกนขอร้องด้วยความเต็มใจ และที่สำคัญ สถานที่ที่เธอเจอขวดนั้น อยู่ห่างจากบ้านของเมแกนไปแค่ 15-20 ไมล์เท่านั้นเอง บังเอิญ?
3.สุนัขที่หายไปในพายุเฮอร์ริเคน กลับมาเจอเจ้าของได้อย่างน่าพิศวง
ในเดือนตุลาคม 2012 พายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ ได้เข้าถล่มรัฐชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา หลาย ๆ ครอบครัวต้องสูญเสียหลาย ๆ อย่าง ที่ทรัพย์สินและชีวิต ไม่เว้นแม้แต่ครอบครัวของ ชัคและอลิเซีย เจมส์เช่นกัน ครอบครัวของย้ายออกจากบ้านของพวกเขา เพราะบ้านถูกถล่มราบคาบ พร้อมกับสุนัขตัวโปรด "Reckless(บ้าบิ่น)" ต้องหายไปด้วย
หนึ่งปีครึ่งผ่านไป ครอบครัวเจมส์ได้ตัดใจ แล้วไปหาสถานรับเลี้ยงสุนัขจรจัดเพื่อจะเอามาแทนเจ้า Reckless แต่แล้วพวกเขาก็ต้องประหลาดใจ เมื่อสุนัขตัวแรกที่ออกมาคือเจ้าสุนัขสุดที่รักของพวกเขานี่เอง "ตอนแรกพวกเราจำมันไม่ได้เลยเพราะมันอ้วนมาก แต่พอมันกระโดดเข้ามาหาอย่างบ้าคลั่งเราก็แน่ใจว่าได้เจ้า Reckless ของเรากลับมาแล้ว" เปิดเผยโดยชัค
บทสรุปของเรื่องนี้คงจะใช้คำพูดของชัคที่กล่าวไว้ว่า" รู้สึกเหมือนถูกล็อตเตอรี่ แบบไม่ได้ซึ้อล็อตเตอรี่ด้วยซ้ำ"
4.อัฐิที่หายไปได้กลับไปสู่ครอบครัวอันเป็นที่รักในที่สุด
ในเดือนมีนาคม 2015 แม่บ้านได้บังเอิญพบกล่องใส่อัฐิของ ไมเคิล ธอมป์สัน ที่บ้านเช่าที่เธอไปทำความสะอาด หลังจากติดต่อคนเช่าล่าสุดแล้ว เธอก็พบว่ากล่องอัฐินี้ไม่มีเจ้าของ
หลังจากความพยายามในการหามาระยะหนึ่ง เธอก็เกือบจะตัดใจ แล้วเธอนึกถึงการหาในเฟซบุ๊คได้
ซึ่งมันก็ประสบความสำเร็จเธอสามารถติดต่อกับลูกสาว(จากการแต่งงานครั้งแรก)ของผู้ตายจนได้ แคร์รี่ วิลสัน เผยว่า "พ่อของฉันมักจะหายตัวไปนาน ๆ อย่างนี้แหละแล้วก็จะปรากฏตัวมา อยู่เสมอ ๆ" เธอได้นำกระดูกของพ่อเธอไปฝังไว้ใกล้ๆ กับที่ฝังศพของแม่เธอ
5.ชายผู้ติดคุกมา 15 ปีเพื่อที่จะกลับมาปล้นร้านเดิมที่ทำให้เขาติดคุก
คริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ ต้องติดคุกใน ปี 1999 หลังจากความพยายามปล้นร้านรองเท้าของเขาไม่ประสบความสำเร็จ
หลังจาก 15 ปีในคุก เพียงวันเดียวเขาก็กลับไปที่ร้านรองเท้าร้านเดิมอีก เพื่อที่จะทำการปล้นอีกครั้ง และคราวนี้เขาก็ประสบความสำเร็จ เขาได้เงินไป $389 พร้อมกับกุญแจรถของพนักงาน แล้วเขาก็ถูกจับอีกทีในเวลาไม่นาน"ผมรู้ทันทีว่าเป็นเขาคนเดิมนั่นเอง ผมคิดว่าเขาคงจะแค้นที่ไม่ได้อะไรไปเลยคราวที่แล้ว จึงกลับมาใหม่" กล่าวโดยผู้จัดการร้าน คนเดียวกับวันที่โดนปล้นเมื่อ 15 ปีที่แล้วเช่นกัน
6.นักแสดงผู้ต้องกลับมาขายฮ็อทด็อกหน้าโรงถ่ายที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นซุปเปอร์สตาร์อยู่
คาร์ล เดน เคยเป็นนักแสดงผู้ยิ่งใหญ่ ในยุคภาพยนตร์เงียบ เขาสามารถทำเงินได้ถึง 1500 เหรียญต่อสัปดาห์ ในช่วงรุ่งเรือง แต่เมื่อยุคของหนังมีเสียงเข้ามา เขาโดนยกเลิกสัญญาเพราะ ทางต้นสังกัดอ้างว่า สำเนียงของเขาไม่มีใครเข้าใจ(เขาเป็นคนเดนมาร์ก) ในปีถัดมาเขาเสียใจมากถึงขนาดกับต้องเข้าโรงพยาบาล
3 ปีให้หลังในปีค.ศ. 1933 เขาต้องลำบากในการกลับไปหางานที่ฮอลลิวู้ดอีกครั้ง และเรื่องราวกลับแย่ลงไปอีก เมื่อเขาได้ซื้อที่ขายฮ็อทด็อกหน้าโรงถ่ายที่เขาเคยแสดงอยู่ แต่ธุรกิจกลับไปไม่รอดเมื่อ เพื่อน ๆ นักแสดงของเขาไม่ช่วยในการซื้อเลย ในปีถัดมาเขาต้องตายอย่างน่าสงสารจากการทำร้ายตัวเอง และไม่มีใครมีแสดงตัวเป็นญาติในการรับศพเลย
แต่อย่างไรก็ดี ในปี 2008 ทางรัฐบาล เดนมาร์กได้จัดงานรำลึกถึง คาร์ล เดน ที่เมืองโคเปนเฮเก้นของประเทศเดนมาร์ก
7.ชายผู้ซึ่งโดนจับ กว่า 500 ครั้ง ในท้องที่เดียวกัน
โรเบิร์ต เดล บราวน์ โดนจับ 492 ครั้งจนเป็นตำนานของตำรวจท้องที่ ของเมืองเดวิดสันในรัฐเทสเนสซี่ ส่วนมากจะเป็นข้อหามึนเมาในที่สาธารณะ วีรกรรมล่าสุดของนายบราวน์ คือโดนจับขณะนั่งเมาอยู่ที่ทางหลวง หลังจากดื่มเบียร์ไป ลิตรกว่า ๆ ทุกๆ ครั้งที่เขาโดนจับ จะอยู่หลังลูกกรงไป 1-2 วันแล้วก็ถูกปล่อยตัวออกมา
นายอำเภอดารอน ฮอลล์ "กล่าวนี่เป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก ๆ ที่จะมีคนโดนจับโดยข้อหาเดิมซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เราไม่มีเวลาจัดการเรื่องเอกสารคดีก่อน ๆ เสร็จทันก่อน ที่เขาจะโดนจับใหม่ด้วยซ้ำ"
นายฮอลล์ทิ้งท้ายว่าหวังว่า หลังจากรักษาทางจิตและการบำบัดนายบราวน์คงจะดีขึ้นในวันใดวันนึง
8.วัยรุ่นกลับมาช่วยชีวิต หญิงสาวผู้ช่วยชีวิตเขาไว้เมื่อหลายปีก่อน
คุณไม่รู้หรอกเมื่อกรรมดีที่คุณทำจะกลับมาช่วยคุณเมื่อไหร่ ดังเรื่องราวดังต่อไปนี้ ในปีค.ศ.1999 เควิน สเตฟานโดนไม้เบสบอลตีเข้าที่หน้าอกโดยอุบัติเหตุ ทำให้หัวใจเขาหยุดเต้น เพนนี บราวน์ แม่ของเพื่อนร่วมทีมที่บังเอิญไปดูการแข่งด้วย ซึ่งเป็นพยาบาลทำการปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต สเตฟานไว้ได้อย่างปลอดภัย
7 ปีให้หลังในปี ค.ศ.2006 นางบราวน์ได้ไปทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในนิวยอร์ค เธอสำลักอาหารที่เธอกำลังรับประทานอยู่ พนักงานในร้านซึ่งรู้ว่าสเตฟาน เป็นอาสาสมัครดับเพลิง ถูกเรียกมาเพื่อให้การช่วยเหลือนางบราวน์ไว้ได้ทันท่วงที
กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมได้รับการตอบสนอง ประโยคนี้ย่อมเป็นอมตะเสมอ
9.ถนนเส้นเดียวกัน โดนเครื่องบินตกใส่ถึงสองครั้งโดยอุบัติเหตุ
ในปีค.ศ. 2005 เมืองปาดัง บูลาน เมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของอินโดเนเชียได้พบกับหายนะครั้งใหญ่เมื่อเครื่องบินโดยสารของสายการบินไทเกอร์ แอร์ ได้ตกลงบนถนนกลางเมืองทำให้มีผู้เสียชีวิต 149 คนบนเครื่อง และ 47 คนบนท้องถนน
นายวาตู เตริงกัน เป็นหนึ่งในผู้ได้เห็นเหตุการณ์ด้วยตาตัวเอง คิดว่าเขาคงจะไม่ได้เห็นอะไรอย่างนี้อีก แต่เขาคิดผิด
สิบปีผ่านมา ในเดือนกรกฏาคม 2015 เขาเห็นเครื่องบิน ลำหนึ่งตกเฉียดต้นไม้ในสวนหลังบ้านไปนิดเดียวแล้วไปตกลงใกล้ ๆ กับที่ตกเดิมเมื่อสิบปีที่แล้ว ห่างออกไปเพียง 2 กิโลเมตร
"ผมจะไปไหนได้ล่ะ ในเมื่อผมเกิดที่นี่ โตที่นี่ ผมคงจะได้แค่ยอมรับการตัดสินใจของพระเจ้า" นายวาตูกล่าว
ครั้งหน้าก็ดูบนท้องฟ้าบ่อย ๆ แล้วกันนะคุณ
10.บันไดที่ไม่มีจุดจบ มันมีอยู่จริงไหม?
ในเดือนเมษายน 2013 ชาวเนตต่างตกตะลึงกับการเผยแพร่วิดีโอ "บันไดของเอสเชเรียน(โปรดดูข้อมูลในลิ้งค์)" ตั้งชื่อตาม เอ็ม. ซี. เอสเชอร์ ศิลปินวาดภาพลวงตาชาวดัชต์ ซึ่งเขาได้วาดภาพบันไดที่ไม่มีจุดจบและเริ่มต้นชื่อว่า "Penrose Stairway"ไว้
มันถูกเปิดเผยภายหลังว่า เป็นการสร้างโดยกราฟฟิคคอมพิวเตอร์และใช้มุมกล้องในการถ่ายทำ อย่างไรก็ดีหากมีบันไดอย่างนี้อยู่จริงแล้วคุณต้องเดินอย่างไม่มีจุดเริ่มต้น และ สิ้นสุด กลับไปกลับมาเรื่อย ๆ มันคงเป็นเรื่องที่น่ากล้วไม่น้อย
แหล่งที่มา : Oddee