คอจักรยานหันขวับ! นี่คือ 20 เมือง ที่เป็นมิตรกับจักรยานมากที่สุดในโลก!
เมื่อย่างเท้าไปตามถนนหนทางต่างๆ สิ่งแรกที่พบ แน่นอนว่า ต้องเป็นรถยนต์ที่วิ่งสวนกันไปมา รถยนต์กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตและคือสัญลักษณ์ของความหรูหราในหลายๆประเทศ แต่ทว่า ความหรูหรานั้นกลายเป็นศัตรูต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ในหลายๆเมืองจึงได้ริเริ่มให้ประชาชนเลือกใช้จักรยานเป็นพาหนะ โดยการเพิ่มช่องทางพิเศษสำหรับจักรยานและที่จอดจักรยาน เพื่อให้ตรงคอนเซิปเมืองที่เป็นมิตรกับจักรยาน องค์กร Copenhagenize ได้จัดอันดับ 20 เมืองที่เป็นมิตรกับจักรยานมากที่สุดในโลก โดยพิจารณาจากองค์ประกอบ 13 ประเภท ดังนี้
20. ฮัมบูร์ก เยอรมัน
เยอรมันเป็นประเทศที่มีการใช้จักรยานมากที่สุดประเทศหนึ่งในยุโรป โดยรัฐบาลเยอรมันมีความพยายามที่จะกระตุ้นให้ประชากรใช้จักรยานในทุกๆวัน ในเมืองฮัมบูร์กมีช่องทางสำหรับจักรยานยาวถึง 1,700 กิโลเมตร และยังเป็นเมืองทางผ่านของเส้นทางการปั่นจักรยานทัวร์ประเทศเยอรมันอีกด้วย
19. ปารีส ฝรั่งเศส
ปารีสเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีปัญหาการจราจรที่คับคั่ง รัฐบาลจึงส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้จักรยานเป็นพาหนะหลักในการสัญจรมากขึ้น โดยทางการเตรียมทุนงบประมาณหลานพันล้านบาทเพื่อสร้างเส้นทางจักรยานให้ครอบคลุมทั่วทั้งปารีส พร้อมตั้งเป้าให้ปารีสเป็นเมืองหลวงของการปั่นจักรยานในอนาคต
18. บูดาเปสต์ ฮังการี
เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเห็นนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว วัยรุ่น เลือกใช้เป็นยานพาหนะในการเดินทางอยู่ทั่วเมือง บูดาเปสต์ถือเป็นเมืองจักรยานแห่งใหม่ของยุโรป แต่มีจักรยานสาธารณะให้บริการถึง 1,100 คัน ใน 75 จุดรอบเมือง
17. บาร์เซโลน่า สเปน
ที่บาร์เซโลน่ามีทัวร์จักรยานที่โด่งดังที่สุดด้วยเส้นทางสำหรับจักรยานที่ยาวกว่า 158 กิโลเมตร มีจักรยานสาธารณะให้บริการกว่า 6,000 คัน ใน 420 จุด และยังมีการรณรงค์ให้ชาวบาเซโลน่าใช้จักรยานในการเดินทางระยะสั้นทนการใช้รถยนต์ด้วย
16. ริโอเดอจาเนโร บราซิล
เมืองรีโอเดอจาเนโรมีเส้นทางจักรยานที่เชื่อมสถานที่ท่องเที่ยวและจุดสำคัญต่างๆของเมือง นอกจากนั้น ในปี 2016 เมืองรีโอเดอจาเนโรจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน จึงมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวมหาศาล รวมไปถึงเส้นทางจักรยานด้วย
15. นาโกย่า ญี่ปุ่น
ประชากรหลายพันคนในนาโกย่าเลือกใช้จักรยานเป็นพาหนะเพื่อไปทำงาน บริษัททัวร์มากมายก็เลือกใช้จักรยานในการพานักท่องเที่ยวปั่นชมเมือง และหลายๆโรงแรมมีบริการให้เช่าจักรยานด้วย ซึ่งในอนาคตคาดการณ์ว่า นาโกย่าจะเป็นเมืองศูนย์กลางด้านการปั่นจักรยานของประเทศญี่ปุ่น
14. มอนทรีออล แคนาดา
ก่อนที่มอนทรีออลจะมีเส้นทางสำหรับปั่นจักรยานที่ยาวกว่า 3,000 กิโลเมตรในปัจจุบัน ได้มีการใช้งบประมาณหลายพันล้านบาทในการพัฒนาเส้นทางสำหรับปั่นจักรยาน และยังถือว่าเป็นประเทศแรกๆในอเมริกาเหนือที่ให้ความสำคัญกับการใช้จักรยานอย่างแท้จริง
13. มิวนิค เยอรมัน
กว่า 17 เปอร์เซ็นต์ของการจราจรในมิวนิค คือ จักรยาน ด้วยเส้นทางสำหรับจักรยานที่ยาวถึง 1,800 กิโลเมตร และประชากรกว่า 80 เปอร์เซ็นต์มีจักรยานอยู่การครอบครอง
12. โตเกียว ญี่ปุ่น
เมืองโตเกียวเป็นเมืองที่มีระบบการจัดการด้านจักรยานที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจาก ปัญหาการจราจรที่คับคั่งจึงทำให้ชาวโตเกียวหันมาใช้จักรยานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเส้นทางจักรยานมีความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเท่านั้น รัฐบาลยังจัดให้มีที่จอดจักรยานใต้ดิน ที่อยู่ลึกลงไปกว่า 11 เมตร นอกจากจะปลอดภัยจากการถูกขโมยแล้ว ยังปลอดภัยจากแผ่นดินไหวด้วย
11. ดับลิน ไอร์แลนด์
ด้วยจำนวนนักปั่นจักรยานที่เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวในทุกๆปี นายกเทศมนตรีของเมืองดับลินจึงเริ่มสร้างทางสำหรับจักรยานที่มีความกว้างขนาด 2 เลนและยังขยายตัวออกไปเรื่อยๆจนครอบคลุมทั่วทั้งเมือง เพื่อรองรับนักปั่นทั้งครอบครัว เด็กๆ และนักท่องเที่ยว ละยังตั้งเป้าให้ประชาชนปั่นจักรยานไปทำงานให้ได้ 10 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2020
10. เบอร์ลิน เยอรมัน
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ปริมาณผู้ใช้จักรยานในเมืองเบอร์ลินมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนประชากรในเบอร์ลินทั้งหมด นอกจากนั้น ยังมีร้านเช่าจักรยานภายในแหล่งท่องเที่ยวมากมายให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการปั่นจักรยานชมเมือง
9. มัลเมอ สวีเดน
เป็นอีกเมืองที่มีชื่อเสียงด้านการปั่นจักรยานและมีการใช้จักรยานมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ประชากรร้อยละ 30 ใช้จักรยานเป็นยานพาหนะหลักในการเดินทางไปทำงานและไปเรียนทุกวัน รัฐบาลได้สร้างอาคารจอดรถจักรยานที่สถานีรถไฟ Central Station ที่สามารถรองรับจักรยานได้ถึง 1,500 คัน และลานจอดจักรยาน outdoor ที่จอดได้ถึง 200 คัน โดยยังคงมีการพัฒนาแผนเมืองอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
8. ไอนด์โฮเวน เนเธอร์แลนด์
ไอนด์โฮเวนเป็น 1 ใน 5 เมืองจักรยานที่ดีที่สุดของประเทศเนเธอร์แลนด์ มีแลนด์มาร์กจักยานอันโด่งดังอย่าง Hovenring ซึ่งเป็นทางสำหรับปั่นจักรยานรูปวงกลมขนาดใหญ่ โดยในปี 2014 ที่ผ่านมาได้มีการขยายขนาดของเลนปั่นจักรยานเป็น 2 เลนให้สามารถปั่นสวนทางกันได้
7. แอนต์เวิร์ป เบลเยี่ยม
เมืองแอนต์เวิร์ปพึ่งมีการให้บริการจักรยานสาธารณะเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา ในปัจจุบันที่จักรยาน 1,800 คัน ใน 420 จุด และได้รับความนิยมจากชาวเมืองเป็นอย่างมาก
6. น็องต์ ฝรั่งเศส
เมืองน็องต์ กำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีเกี่ยวกับการใช้จักรยานที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเดือนมิถุนายน ที่กำลังจะถึงนี้ เป็นสิ่งบ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงความเป็นศูนย์กลางด้านจักรยานของเมืองนี้
5. บอร์กโดซ์ ฝรั่งเศส
บอร์กโดซ์ ได้พัฒนาโครงการปั่นจักรยานอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีพื้นที่ค่อนข้างเรียบ และมีเส้นทางสำหรับปั่นจักรยานกว่า 580 กิโลเมตรทั่วทั้งเมือง นอกจากนั้นยังมีร้านให้เช่าจักรยานและบริการจักรยานสาธารณะหลายจุด
4. เซบียา สเปน
เซบียาได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลท้องถิ่นในการสร้างเลนสำหรับปั่นจักรยานที่มีความยาวกว่า 80 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีการรณรงค์ให้ประชาชนใช้จักรยานมากขึ้น
3. ยูเทรกต์ เนเธอร์แลนด์
ยูเทรกต์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองมหาลัย ที่ปั่นจักรยานสนุกมากเมืองหนึ่ง แคมเปญที่น่าสนใจของเมืองนี้คือ "จุดโบกจักรยาน" เพื่อขอซ้อนท้ายเข้าเมือง
2. โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก
จากการจัดอันดับโลกของหลายสถาบัน โคเปนเฮเกนรั้งอันดับที่ 10 เมืองสีเขียว (Green City) และมีเลนจักรยานที่ยาวกว่า 300 กิโลเมตรทั่วเมือง ที่เด็ดสุด คือ มีจักรยานสาธารณะให้บริการกว่า 2000 คัน ตามจุดต่างๆ
1. อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์
นอกจากจะเป็นเมืองที่มีความเป็นมิตรกับจักรยานมาที่สุดในโลกแล้ว ยังถูกขนานนามว่าเป็น "เมืองหลวงของจักรยานโลก" อีกด้วย ประชากรร้อยละ 70 ของอัมสเตอร์ดัมเลือกใช้จักรยานเป็นยานพาหนะ ซึ่งจำนวนจักรยานมีมากกว่าจำนวนประชากรในประเทศเสียอีก
จะเห็นได้ว่าจักรยานก็สามารถพาคุณไปได้ทุกที่โดยไม่ก่อมลพิษทางเสียงและอากาศ แถมไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงและแทบจะไม่ก่อปัญหาการจราจรใดๆ แต่กลับส่งเสริมสุขภาพอีกต่างหาก
แม้ในบ้านเราจะมีข่าวนักปั่นถูกชนเป็นว่าเล่น และมีแคมเปญรณรงค์ออกมามากมาย ถึงกระนั้น ก็มีหลายๆเมืองเริ่มให้ความสำคัญกับการปั่นจักรยานโดยการเพิ่มช่องทางจักรยานทั่วทั้งเมือง อาทิเช่นจังหวัดเชียงใหม่และกรุงเทพมหานคร
ที่มา : wonderslist.com