มาชม 6 เทคโนโลยีของสายลับในโลกความจริง ที่คุณอาจไม่เชื่อว่ามันเป็นไปได้
หากคุณชอบดูหนังหรือการ์ตูนแนวนักสืบสายลับแล้วล่ะก็ สิ่งหนึ่งที่คุณอาจจะประหลาดใจนั่นก็คืออุปกรณ์เหล่านั้นมันมีจริงๆหรือ? ใช่…อุปกรณ์บางอย่างมันดูไม่น่าจะเป็นไปได้ในชีวิตจริง ซึ่งคุณต้องแยกแยะให้ออกว่าอันไหนคือเรื่องจริงอันไหนคือเรื่องในหนังหรือในการ์ตูน วันนี้ผมขอพาคุณไปดูเทคโนโลยีของสายลับที่มีอยู่จริงๆบนโลกใบนี้ แล้วคุณจะทึ่งว่ามันมีจริงๆไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ฮ่าๆ
1. สิ่งประดิษฐ์จากยุคสงครามเย็น
การสอดแนมอยู่คู่กับอารยะธรรมของมนุษย์มาช้านาน ในกฎหมาย Hammurabi และพระคัมภีร์ไบเบิ้ลภาคพันธะสัญญาเดิมต่างอ้างถึงการสอดแนมระหว่างรัฐต่างๆ ขณะที่เทคโนโลยีต่างๆล้ำหน้าไปเรื่อยๆ อุปกรณ์ที่ใช้ในการสอดแนมก็ได้รับการพัฒนาให้มีความซับซ้อนและทันสมัยยิ่งขึ้น
ในช่วงสงครามเย็น สายลับของบัลเกเรียได้ฝังยาพิษไว้ที่ปลายของร่มและใช้เป็นอาวุธในการสังหารสายลับของสหภาพโซเวียต ในเวลาเดียวกัน สหภาพโซเวียตก็พัฒนาลิปสติกที่แปลงเป็นปืนได้
2. สายลับแมวเหมียว
ในช่วงทศวรรษ 1950 ถึง 1960 หน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกาได้ริเริ่มโครงการพัฒนาแมวให้เป็นสายลับ โดยฝังไมโครโฟนลงในช่องหูของแมว และเครื่องรับสัญญาณวิทยุในบริเวณกะโหลก ส่วนแบตเตอรี่ก็ฝังไว้ในช่องท้อง แล้วใช้หางแมวเป็นเสารับสัญญาณ เพื่อใช้ดักฟังการสนทนาของเจ้าหน้าที่สหภาพโซเวียต รวมทั้งการสอนให้แมวทำตามคำสั่ง อย่างไรก็ตาม แมวไม่ใช่สัตว์ที่จะยอมฟังคำสั่งใครง่ายๆ พวกมันทำตามใจตัวเองเท่านั้น และบ่อยครั้งแทนที่สายลับแมวเหมียวจะออกปฏิบัติการณ์สอดแนม พวกมันกลับใช้เวลาส่วนใหญ่ไปในการหาอาหาร
3. เครื่องดักฟังจากภาพที่จับได้
นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเท็กซัสประดิษฐ์อุปกรณ์ที่สามารถแกะรอยบทสนทนาที่เกิดขึ้นภายในรูปภาพได้ โดยหลักการการทำงานการทำงานของสิ่งประดิษฐ์นี้อยู่บนหลักการที่ว่า เสียงเปลี่ยนเป็นพลังงานรูปคลื่นและเมื่อกระทบกับวัตถุอื่นรอบตัวจะทำให้เกิดการสั่นซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาของมนุษย์ ทั้งนี้ อุปกรณ์ดักฟังชิ้นนี้จะวิเคราะห์การสั่นที่เกิดในรูปภาพและถอดรหัสออกมาเป็นบทสนทนา
4. การเจาะระบบอุปกรณ์ทางการแพทย์
ในปี ค.ศ. 2011 Jerome Radcliffe ซึ่งเป็นแฮกเกอร์ชื่อดังได้โชว์วิธีเจาะระบบเครื่องควบคุมการฉีดอินซูลินที่ฝังในร่างกายของเขา หลังจากนั้นไม่นาน นักแฮกเกอร์จำนวนมากได้ออกมาแสดงความเห็นทำนองว่า พวกเขาสามารถแฮกเครื่องช่วยกระตุ้นหัวใจที่ฝังอยู่ในร่างกายผู้ป่วยผ่านระบบไวไฟได้ การออกมาเปิดเผยของแฮกเกอร์เหล่านี้ทำให้องค์กรอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาเพิ่มมาตรการที่เข้มงวดขึ้น เพื่อสอดส่องดูแลความปลอดภัยในการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เหล่านี้
5. กล้องวงจรปิด
บริษัท Almax ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีเกี่ยวกับกล้องวงจรปิดได้พัฒนาอุปกรณ์ตัวใหม่ที่เรียกว่า “EyeSee” ซึ่งสามารถบันทึกข้อมูลของลูกค้าที่เข้ามาซื้อเสื้อผ้าในร้าน โดยใช้ซอฟท์แวร์ที่เชื่อมโยงการจำแนกหน้าบุคคลเข้ากับพฤติกรรมการซื้อ ทั้งนี้ อุปกรณ์ตัวนี้จะช่วยพยากรณ์ว่า ลูกค้าคนไหนสนใจสินค้าชนิดใดเป็นพิเศษ
6. รหัสลับที่ไม่สามารถถอดได้
ในยุคปัจจุบันที่หน่วยงานสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกาสามารถสอดแนมทุกคนได้ การพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถส่งข้อข้อความลับที่ไม่มีใครอ่านออกนอกจากตัวผู้ส่งและผู้รับจึงเป็นสิ่งที่หลายๆคนปรารถนาQuantum encryption ซึ่งใช้ฟิสิกส์วิทยาศาสตร์เข้าช่วยดูเหมือนจะเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับงานชิ้นนี้ โดยมันจะเข้ารหัสข้อความที่ไม่มีใครสามารถถอดได้นอกจากผู้รับ ทั้งนี้ อุปกรณ์ชิ้นนี้อยู่ระหว่างการทดลองใช้งานจริง
แหล่งที่มา : livescience