10 รายชื่ออาหารทั่วโลก ที่ถูกแบนแบบแปลกๆ
ใครบ้างคะจะไม่ชอบการกินอาหารที่เราแสนจะโปรดปรานในทุกที่ ทุกเวลาที่เราต้องการ แต่ก็มียังมีผู้คนบางกลุ่มซึ่งหวังดีกับเราและคอยช่วยพวกเราด้วยการสั่งแบนอาหารบางชนิดพร้อมกับให้เหตุผลด้วยว่าทำไมเราถึงไม่ควรกินอาหารเหล่านั้น อาหารบางชนิดถูกห้ามเพราะผิดข้อกฏหมายในบางประเทศหรืออาจเป็นเพราะผู้คนในประเทศนั้นมีปัญหากับอาหารชนิดนั้นๆหรือกระทั่งมีปัญหากับสารที่ใส่ลงไปในอาหารเหล่านั้นด้วย ลองมาดูรายชื่อเมนูอาหารที่ถูกสั่งแบนจากประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งบางเมนูอาจทำให้คุณต้องตะลึง
1.ซาโมซ่า
เชื่อหรือไม่ว่าของกินเล่นอย่างซาโมซ่าถูกสั่งห้ามเด็ดขาดในอิสลามิสต์โซมาเลียหรือประเทศโซมาเลียโดยกลุ่มอัลซาบับสั่งห้ามไม่ให้ประชาชนกินของกินเล่นชนิดนี้ ซาโมซ่าถูกสั่งห้ามตั้งแต่ปีค.ศ.2011 ด้วยเหตุผลที่ว่ามีความเป็น ”คริสเตียน”มากเกินไป โดยอ้างว่ารูปทรงของมันเป็นสามเหลี่ยมคล้ายกับสัญลักษณ์ทางคริสตศาสนา ที่เรียกว่า “ตรีเอกานุภาพ” ( ซาโมซา แผ่นแป้งทอดรูปสามเหลี่ยมบรรจุไส้ผักและเนื้อ ซึ่งเป็นอาหารว่างที่นิยมกันในอินเดีย ปากีสถาน เนปาลและบังกลาเทศ)
2.ปลาแซลมอนจากฟาร์มเลี้ยง
แซลมอนจากฟาร์มที่เพราะเลี้ยงถูกแบนจากประเทศออสเตรเลีย,นิวซีแลนด์และรัสเซีย ด้วยสาเหตุที่ว่าปลาเหล่านั้นถูกเลี้ยงด้วยอาหารที่มีการตัดต่อพันธุกรรมหรือ GMO และสีส้มของปลาแซลมอนจากฟาร์มเลี้ยงนั้นเกิดจากการใช้สารอาหารบางอย่างที่ทำให้เนื้อของมันเป็นสีส้ม (เนื่องจากสีธรรมชาติของปลาแซลมอนจากธรรมชาตินั้นเกิดจากแหล่งอาหารตามธรรมชาติของมันเมื่อมาเลี้ยงในฟาร์มผู้เลี้ยงจึงต้องใช้สารเพิ่มสีผสมลงในอาหารให้พวกมันเพื่อให้เนื้อของมันเป็นสีส้มสวย) ซึ่งสารเหล่านี้ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด
3.ฮักกิส
เป็นอาหารจานเด็ดที่ผู้คนทั่วโลกต่างโปรดปรานแต่กลับอยู่ในรายการอาหารต้องห้ามในสหรัฐอเมริกา อาหารจานนี้ทำจากกะเพาะ,ตับ,ปอดและหัวใจของแกะ และส่วนผสมอื่นๆอย่างข้าวโอ๊ต,หอมใหญ่,เครื่องปรุงรสและไขมันแข็งจากแกะซึ่งเป็นส่วนผสมต้องห้ามในสหรัฐฯตั้งแต่ปีค.ศ. 1971 และโดยเฉพาะปอดของแกะเนื่องจากชาวอเมริกันทั้งหลายถือว่าปอดของสัตว์นั้นไม่ใช่อาหารที่ควรทาน
4. หมากฝรั่ง
ประเทศสิงคโปร์ผู้เป็นประเทศที่ค่อนข้างเข้มงวดในเรื่องของความสะอาดของบ้านเมืองได้ออกกฎหมายมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1992 ซึ่งรัฐบาลก็อนุมัติกฎหมายห้ามนำเข้าหมากฝรั่งทุกประเภท ยกเว้นผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้ทางการแพทย์ เพื่อรักษาความสะอาดของบ้านเมือง
5. มักโรนีชีส
แน่นอนว่ามักโรนีอบชีสนั้นไม่ใช่อาหารต้องห้ามสำหรับสหรัฐอเมริกาแต่ก็มีมักโรนีอบชีสแบบสำเร็จรูปแบบกล่องบางยี่ห้อที่ทำให้บางประเทศอย่าง นอร์เวย์,ออสเตรียและอีกสองสามประเทศที่พากันสั่งห้ามนำเข้าประเทศ สาเหตุก็เป็นเพราะมีการใช้สารเคมีประเภทสีย้อม สีเหลืองเป็นส่วนผสมลงในมักโรนีอบชีส ทำให้ผู้ผลิตมักโรนีอบชีสหลายเจ้าเตรียมปรับสูตรใหม่ให้ดีกว่าเดิมเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนแบนเช่นนี้
6. เครื่องดื่มซาบซ่ากลิ่นมะนาว
น้ำหวานซ่ากลิ่นมะนาวนี้ถูกแบนจากประทศบางส่วนของโลกอย่างญี่ปุ่นและยุโรปเพราะสารที่อยู่ในเครื่องดื่มโซดานี้มีสารที่เรียกว่า BVO.(น้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีใช้เพื่อทำให้ส่วนผสมต่างๆของเครื่องดึ่มรวมเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน) ซึ่งแม้ว่าคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาหรือ FDA ได้เคยรับรองสารตัวนี้แล้วเมื่อปี ค.ศ. 1977 แต่ก็ยังคงมีหลายๆประเทศที่ไม่ยอมรับสารตัวนี้เนื่องจากความเชื่อที่ว่าอาจมีผลโดยตรงกับอวัยวะและอาจทำให้มีปัญหาในการมีบุตร
7. ฟรัวกราน์
เมนูตับห่านโดยเฉพาะตับของเป็ดหรือห่านตัวอ้วนๆนั้นนับว่าเป็นเมนูแสนโอชะและหรูหราราคาแพงติดอันดับร้านอาหารหลายๆร้านจากทั่วโลก แต่ก็มีบางประเทศอย่างอิสราเอล,อาร์เจนติน่า,อินเดียและบางเมืองในสหรัฐฯที่สั่งห้ามอาหารเมนูนี้ด้วยเหตุผลทางศีลธรรมและมนุษยธรรมซึ่งถือเป็นการทารุณกรรมสัตว์มากเกินไป
8. ไข่ชอคโกแลต
ของเล่นและขนมหวานของโปรดของเด็กๆชนิดนี้ เราเห็นกันบ่อยๆ รู้ไหมว่าจริงๆแล้วขนมชนิดนี้ถูกอเมริกาสั่งห้ามไม่ให้ขายกันตั้งแต่ปีค.ศ. 1938 ด้วยเหตุผลที่ว่าอเมริกานั้นไม่อนุญาตให้ใส่วัสดุใดๆเข้าไปในอาหาร เนื่องจากไข่ชอคโกแลตของชอบของเด็กๆนั้นเป็นชอคโกแลตรูปไข่ที่มีของเล่นพลาสติกอยู่ด้านใน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายจากการที่เด็กอาจจะนำของเล่นเข้าปากและติดคอได้
9. นกจาบปีกอ่อนออโต้ลัน
ในประเทศฝรั่งเศสนั้นเคยมีการนิยมเมนูนกออโต้ลันนี้กันอย่างมากก่อนที่จะถูกสั่งห้ามในปี ค.ศ.1999 เนื่องด้วยเหตุผล 2 ประการเลย นั่นคือประชากรนกสายพันธุ์นี้ลดลงอย่างมากและเพราะขั้นตอนการทำเมนูนกออโต้ลันที่ค่อนข้างโหดร้ายทารุณเกินไป โดยเชฟผู้ทำอาหารจะป้อนอาหารให้กับนกน้อยตัวนี้จนท้องของมันพองและบวมขึ้นแล้วจึงนำมันไปทอดแล้วจึงจัดเสิรฟโดยการกินมันในคำเดียว T T
10. ซอสมะเขือเทศ
ประเทศฝรั่งเศสเริ่มต่อต้านการใช้ซอสมะเขือเทศเมื่อปีค.ศ. 2011 นี่เอง โดยสั่งห้ามให้ใช้ซอสมะเขือเทศเป็นเครื่องปรุงในการทำอาหารเมนูต่างๆ ด้วยเหตุผลทางสุขภาพ โดยกำหนดให้โรงเรียนของรัฐบาลใช้เครื่องปรุงและเครื่องเทศชนิดอื่นๆแทนซอสมะเขือเทศ อย่างไรก็ตามยังคงมีเมนูอยู่อีกหนึ่งชนิดที่อนุญาตให้ใช้ซอสมะเขือเทศได้นั่นก็คือ “เฟรนช์ไฟร์” French fries (ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่อาหารประจำชาติของฝรั่งเศสนะจ้ะ)
แหล่งที่มา : lolwot