อยากเดท “หนุ่มฝรั่ง” ต้องเริ่มที่ตรงไหน?

ตอนนี้โฆษณาผิวขาวของไทยกำลังเป็นประเด็นที่ทุกคนต่างให้ความสนใจและกำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วโลก ด้วยสังคมที่ยกย่อง "ความขาว" และ "ความผอม" ทำให้สาวๆที่ "ไม่ขาว" และ "ไม่ผอม" แทบไม่มีที่ยืนและต่างต้องดิ้นรนทุกหนทางเพื่อให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับ แม้หลายๆ คนจะทำไปทำมาแล้วขาวแค่หน้าแต่คอไม่ขาวตามหรือที่เรียกกันว่าหน้าเทาก็เหอะ (จริงๆ แค่ใช้รองพื้นผิดเบอร์นะคะ เลือกให้คล้ำอีกนิดก็จะพอดี) ด้วยค่านิยมที่ถูกฝังหัวมาตั้งแต่ได้ลืมตาดูโลก เปิดทีวีปุ๊บก็เจอโฆษณาผิวขาวไปจนถึงจั๊กแร้ขาวปั๊บ (อีกไม่นานคงลามไปถึงกกหูขาว ขาหนีบขาว) ทำให้สาวไทยจำนวนไม่น้อยลืม "ตัวตน" ที่ตนมีแล้วดั้นด้นไขว่คว้าหาการยอมรับ 

ที่ร่ายมาทั้งหมดนี้เกี่ยวอะไรกับหัวข้อเรื่องกันล่ะ!? จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรมากหรอก แค่อยากจะบอกสาวๆที่ "ไม่ขาว" และ "ไม่ผอม" ว่า จงดีใจ ถึงแม้ท่านจะอยู่ยากในแผ่นดินไทย แต่สำหรับการส่งออกแล้วท่านได้เปรียบอย่างยิ่ง เพราะก็เป็นที่รู้ๆ กันว่า ฝรั่งน่ะ เค้ามองว่า ผิวแทนคือสุขภาพดี (damn hot!) และการผอมแห้งจนถึงขั้น Skinny อ่ะ ไม่ได้เป็นที่นิยมนะจ๊ะ แต่ไม่ใช่ว่าสาวๆ ที่ดันเกิดมาขาว หมวย จะส่งออกไม่ได้ เราก็ส่งออกได้เหมือนกัน แค่อาจไม่ Hot เท่าผิวแทนสไตล์ไทยแท้แค่นั้นเอง เพราะอันที่จริงมันอยู่ที่เทคนิคภายใน ไม่ใช่แค่ความสวยภายนอกน่ะ  ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยดีกว่า 

 

1. "ความมั่นใจ"

ข้อนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญมาก และก็เป็นจุดอ่อนของผู้หญิงเอเชียส่วนใหญ่ ที่แสนจะเรียบร้อย พูดน้อย ขี้อาย คุณไม่จำเป็นต้องมั่นใจมากถึงขั้นเป็นพิธีกรงานแต่งได้ แต่เพียงแค่มีความมั่นใจพอที่จะกล้าคุยกับฝรั่ง ถึงแม้ภาษาอังกฤษอาจจะงูๆ ปลาๆ ไปบ้างแต่เราไม่ได้จะไปสัมภาษณ์งานนี่ ถ้ากล้าพอที่จะพูดคุยด้วยได้แล้ว ความฝันที่จะได้เรียก babe หรือ honey ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม

 

2. "ถูกที่"

อยากจะได้ใครมาเป็นแฟน ก็ต้องนำพาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่มีโอกาสพบเจอเขาเหล่านั้น ไม่ใช่ว่าอยากได้คุณหมอมาเป็นแฟนแต่ตัวเองเป็นฟรีแลนซ์นั่งทำงานอยู่แต่ในห้องไม่ยอมออกไปเที่ยวเล่น แล้วจะได้หมอมั้ยล่ะ? ขนาดซันนี่ยังต้องไปถึงโรงพยาบาลเลย ที่ว่าถูกที่ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่พาตัวเองไปยังบริเวณที่มีเป้าหมายแฝงตัวอยู่ แต่ต้องเป็นบริเวณที่เอื้อกับการพูดคุยได้นานระดับหนึ่ง เช่น บนเครื่องบิน ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ ผับ เป็นต้น ง่ายๆ คือไม่ใช่แค่เดินผ่านกันตามถนน แบบนั้นออกจะเป็นไปได้ยากนิดนึง เว้นแต่จะมาด้วยมุขถามทางนั่นแหล่ะ 

 

3. "อ่อยก่อนไม่ผิด"

หลังจากที่เราพาตัวเองผ่านข้อ 1. และข้อ 2. มาได้จนมีความมั่นใจมากพอและอยู่ถูกที่ถูกเวลาแล้ว เราก็ต้องมาปรับความเข้าใจกันหน่อยว่า "อ่อยก่อนไม่ผิด" ถึงแม้ว่าในสายตาบรรดาหนุ่มเอเชียหัวโบราณอาจจะมองว่าการอ่อยผู้ชายก่อนนั้นดูไม่งาม แต่สำหรับฝรั่งนั้นไม่ใช่เรื่องเสียหาย ก็แค่ just make friend เราเป็นผู้หญิงเฟรนลี่แค่นั้นเอง แล้วเราจะเริ่มอ่อยก่อนยังไงล่ะ?

 

ยิ้มให้ : เมื่อเจอเป้าหมายที่ถูกใจ ถ้ามีโอกาสได้สบตา "จงยิ้มให้" (ควรเลือกเวลาและสถานที่ด้วย เพราะถ้าสถานที่ไม่เอื้อก็ไปต่อยาก) แรกๆ อาจจะเก้ๆ กังๆ รู้สึกเขินอายอย่างบอกไม่ถูกเพราะไม่ชิน แต่ทำไปเถอะไม่เสียหาย เค้าไม่ยิ้มกลับมาก็แล้วไปเป้าหมายมีอีกเยอะ แต่จะมีผู้ชายสักกี่คนที่ผู้หญิงยิ้มให้แล้วไม่ยิ้มตอบ ขนาดพวกที่มีแฟนแล้วยังยิ้มตอบเลยแล้วชายโสดจะเหลือหรอ? เมื่อเค้ายิ้มตอบแล้วก็เป็นการเปิดทางมาสู่ขั้นตอนต่อไปแล้วล่ะ

 

ชวนคุย : เริ่มจากประโยคทำมาหากินง่ายๆ สุดคลาสสิก "Hi, Where are you from?" ทั้งดูเป็นมิตร ทั้งไม่ดูมีพิรุท แถมยังได้ทำการ ice breaking ไปในเวลาเดียวกัน จากนั้นถ้าเค้าไม่ชวนเราคุยต่อ ก็ให้พยามหาจุดเชื่อมโยงเพื่อไม่ให้บทสนทนาถูกตัดจบ เช่น ถ้าเค้าตอบมาว่า "I'm from Germany" เราก็ทำท่าทางตื่นเต้นแล้วบอกว่า "Really!? I have a friend there blah blah blah" แต่ไม่ได้ให้ไปโกหกเค้านะ แค่ให้หาจุดเชื่อมโยงกับคำตอบหรือต่อประโยคนั่นเอง

สำหรับสาวๆ ที่สุดแสนโชคดีมีฝรั่งมายิ้มให้แล้วชวนคุยก่อน ก็ขอบอกว่า คุยไปเลยค่ะ ไม่ต้องไปอาย! ถ้ามัวแต่เอเชี่ยนนิยมอายม้วนหน้าม้วนหลัง พ่อแม่สอนว่าไม่ให้คุยกับคนแปลกหน้า ก็อยู่บนคานต่อไปนั่นแหล่ะเดี๋ยวก็คงมีเจ้าชายมาสอยลงไปเองกระมัง ถ้าคุยแล้วไม่ชอบก็ไม่ต้องต่อ แต่ถ้าคุยแล้วชอบก็ถึงขั้นตอนต่อไปแล้วล่ะค่ะ

 

4. "Whatsapp / Viber"

ดาวน์โหลด Whatsapp / Viber ซะตั้งแต่วันนี้ เพราะฝรั่งไม่เล่นไลน์กันหรอกนะคะ ไลน์คืออะไรเค้ายังไม่รู้จักเลย เค้าใช้แต่ Whatsapp กับ Viber ถึงแม้จะส่งสติกเกอร์น่ารักๆ มุ้งมิ้งๆ ไม่ได้ และมีแต่ emoticon ง่อยๆ แต่อย่าลืมค่ะ ว่าเรามาด้วยจุดประสงค์อะไร ถ้ามีแอพพร้อมแล้วก็มาต่อกันเลยค่ะ

 

5. "แลก contact"

หลังจากที่เราได้คุยกับเป้าหมายมาจนถึงเวลาอันสมควรที่ต้องจากลา เพื่อให้สามารถ keep in touch จนไปสู่การเดทได้ เราก็ต้องทำการแลก contact ค่ะ แค่ประโยคง่ายๆ ที่สาวไทยอาจไม่คุ้นชินนักอย่าง "Do you have Whatsapp?" ก็จะทำให้เราสามารถ keep in touch และสานต่อความสัมพันธ์กับพ่อหนุ่มข้ามเผ่าพันธุ์ได้แล้วล่ะค่ะ ส่วนจะคุยต่อยังไงให้ได้แฟนนั้น คงไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งสอนกันแล้ว ฝรั่งเค้าค่อนข้างชัดเจน ถ้าเค้าชอบคุณคุณก็จะรู้ได้ในทันที ตรงๆ ง่ายๆ ไม่ต้องมานั่งเดาให้เสียเวลาเหมือนกับเวลาคุยกับผู้ชายไทย กั๊กอยู่นั่นแหล่ะ แม่ม…

 

แต่เดี๋ยวก่อน!! แล้วถ้าเราไม่มีโอกาสที่จะได้เข้าไปพูดคุยถึงขั้นจะได้แลก contact กับเค้าเลยล่ะ? ปัญหานี้แก้ได้ไม่ยาก ด้วยการ "ทิ้งเบอร์" ไว้ให้เลย จดเบอร์ตัวเองใส่กระดาษแล้วก็เอาไปให้เค้าซะ จะฝากเพื่อนเอาไปให้ หรือจะเนียนๆ ไปให้เองก็ได้ ไม่ต้องตื่นเต้นตกใจว่าทิ้งเบอร์ไว้แล้วเค้าจะกล้าโทรมาเลยหรอ เพราะมันไม่ได้ต้องใช้ความกล้าสูงถึงขั้นที่จะต้องโทรคุยกัน เพราะแค่เค้าเซฟเบอร์ของคุณลงในโทรศัพท์ เค้าก็จะสามารถพูดคุยกับคุณผ่านทาง Whatsapp ได้แล้ว แม้จะมีโอกาสที่เค้าจะไม่ติดต่อกลับมา แต่อย่างน้อยคุณก็ได้ทำดีที่สุด ใครจะไปรู้ว่าแค่ทิ้งเบอร์ให้คนที่แอบชอบ คุณอาจจะได้ลงเอยเป็นแฟนกันก็เป็นได้

 

ทั้งนี้ทั้งนั้น มีข้อควระวังอยู่นิดหน่อยว่า คุณกับเค้าต้องยืนอยู่ในจุดเดียวกัน คือมีความต้องการแบบเดียวกันว่าต้องการ long term relationship หรือแค่ one night stand เพราะเราต้องไม่ลืมว่าสำหรับฝรั่งนั้น one night stand เป็นเรื่องที่ค่อนข้างธรรมดา นั่นเอง 

ด้วยรักและหวังดี 

 

เครดิต : Namwan Sopon